เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2025, 6 –14 DEC

คุยกับ ผอ. CEA สำนักภาคเหนือ: The Next Chapter เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่

เผยแพร่เมื่อ 1 วันที่แล้ว

คุยกับ ผอ. CEA สำนักภาคเหนือ

The Next Chapter เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 

ก้าวสู่บทบาทต่อไปแห่งการร่วมมือกัน สร้างสรรค์​ เติบโต


ในยามเช้าของเชียงใหม่ แสงอาทิตย์ลอดผ่านเงาไม้ริมคูเมือง รถแดงค่อย ๆ แล่นผ่านประตูท่าแพ กลิ่นกาแฟจากคาเฟ่ชุมชนลอยปะปนกับเสียงจักรยานที่ผ่านไปตามตรอกเล็ก ๆ ผู้คนค่อย ๆ ก้าวออกมาจากย่านที่พักเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ในเมืองที่คุ้นเคย ภาพเหล่านี้อาจดูเรียบง่าย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบรรยากาศนั้นคือ “พลังของเมืองเชียงใหม่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” 


บรรยากาศพลังแห่งพลวัตของเชียงใหม่ยังคงเดินทางผ่านกาลเวลาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบัน พลังของเชียงใหม่ถูกถ่ายทอดผ่านเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) มาแล้ว กว่า 10 ปี ด้วยบทพิสูจน์แห่งกาลเวลาจึงทำให้เห็นว่าเทศกาลฯ ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลงานออกแบบประจำปี แต่คือเวทีที่สะท้อนวิถีชีวิตและวิธีคิดของผู้คน เทศกาลฯ ที่เกิดจากความเชื่อที่ว่าความคิดสร้างสรรค์สามารถขับเคลื่อนเมืองได้จริง จากเทศกาลฯ เล็ก ๆ ที่เริ่มต้นในย่านเมืองเก่า วันนี้ เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจจากนานาชาติ ทั้งจากประเทศในกลุ่มเอเชีย ออสเตรเลียและยุโรป โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับงาน Craft, Design, Music และ Art ซึ่งการก้าวเข้าสู่ “The Next Chapter” ถูกสะท้อนผ่านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง สูงถึง 5,700 ล้านบาทตลอด 10 ปี และมีผู้เข้าร่วมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี


ในบทบาทต่อไป “The Next Chapter” จึงไม่ได้หมายถึงการต่อยอดพลังของผู้คนทุกกลุ่มให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนเพียงเท่านั้น แต่หมายถึงการก้าวสู่บทใหม่ที่มุ่งหวังให้เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่เป็นพื้นที่ในการส่งเสริมและสร้างความร่วมมือในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือและนานาชาติ



จากทศวรรษแห่งการบ่มเพาะ ทดลอง สู่ยุคแห่งการลงมือทำร่วมกัน


คุณอิ่มหทัย กันจินะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักภาคเหนือ กล่าวว่า 10 ปีแรกของ Chiang Mai Design Week คือช่วงเวลาแห่งการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความสร้างสรรค์ให้เมืองเชียงใหม่ได้ทดลองและเติบโต เทศกาลนี้มีพื้นที่ให้ศิลปิน นักสร้างสรรค์ได้เล่าเรื่องผ่านงานศิลปะ มีชุมชนและคนเมืองที่พร้อมเปิดบ้านให้คนแปลกหน้าเข้ามาเรียนรู้และร่วมสร้างให้คนทุกช่วงวัยได้เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างคุณค่าได้ ตลอดจนมีคนหนุ่มสาวที่หวนกลับเมืองเกิดเพื่อมาทำสิ่งที่รัก 


ดังนั้นเทศกาลในปีที่ 11 จึงไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ผ่านมา แต่คือจุดเริ่มต้นในการต่อยอดพลังท้องถิ่น (Local Essence) ด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม โดยเทศกาลฯ ตั้งแต่ปี 2022 – 2025 จะเห็นได้ว่า เทศกาลใช้ธีม “Local” ตั้งแต่ Local Rise’ation ปี 2022, Transforming Local ปี 2023, SCALING LOCAL ปี 2024 และในปี 2025 มาในธีม “Local Plus: Creativity, Technology, Sustainability ร่วมมือกัน สร้างสรรค์ เติบโต” เพื่อสื่อสารว่า “ท้องถิ่น” พร้อมต่อยอด สร้างโอกาส และเติบโตไปได้ไกลสู่ระดับนานาชาติ


“เทศกาลนี้ไม่ใช่แค่เทศกาลงานออกแบบ แต่คือเครื่องมือสำคัญในการสร้าง City Branding ซึ่งจะทำให้ ‘เชียงใหม่’ มุ่งไปสู่การเป็น “Crafting Wellness from Local Essence, Inspiring Asia” ของภูมิภาค โดยเทศกาลฯ มี 3 เป้าหมายหลักสนับสนุนการขับเคลื่อน คือ 1.) การสนับสนุนศักยภาพและเครือข่ายนักสร้างสรรค์คืนถิ่น (Homecoming) ร่วมกับเครือข่ายนักสร้างสรรค์ท้องถิ่นและนานาชาติ 2.) การสืบสานวิถีท้องถิ่นที่ยั่งยืน (Local Sustainable Living) และ 3.) การเชื่อมโยง Local Essence x Creativity x Technology เพื่อสร้างพื้นที่แห่งโอกาสใหม่ (New Opportunities) พลังสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภาคเหนือ” คุณอิ่มหทัย กันจินะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม


“Local Plus” สมการแห่งความร่วมมือ


ในปีนี้เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568 ถ่ายทอดแนวคิด “Local Plus” ผ่าน 5 สัญลักษณ์ สะท้อนบทบาทของแต่ละภาคส่วนในการขับเคลื่อนเมืองอย่างมีพลัง


บวก (+) คือ การรวมพลังของผู้คน องค์กร ภาคส่วนต่าง ๆ และนานาชาติ ที่มาร่วมสร้างพลังการขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ของภาคเหนือไปด้วยกัน

คูณ (×) คือ ทวีคูณการต่อยอดจากท้องถิ่นสู่สากล ผ่านความร่วมมือกับนานาชาติกว่า 10 ประเทศทั้งในเอเชียและยุโรป

หาร (÷) คือ การแบ่งปันความรู้ แรงบันดาลใจ และนวัตกรรมสร้างสรรค์

ลบ (−) คือการลดข้อจำกัดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

อินฟินิตี้ (∞) คือการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดของเชียงใหม่ เมืองที่กำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง



“Local Plus” จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนสมการแห่งความร่วมมือที่ทำให้เห็นถึงปรัชญาการพัฒนาระบบนิเวศสร้างสรรค์ด้วยพลังของทุกคน ไม่ว่าแต่ละคนจะอยู่ในบทบาท ศิลปิน ดีไซเนอร์ ช่างฝีมือ นักวิจัย ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชน ในเชียงใหม่และภาคเหนือ ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยกันขับเคลื่อนระบบนิเวศสร้างสรรค์ร่วมกัน” คุณอิ่มหทัย กล่าวเพิ่มเติมเชียงใหม่ในบทใหม่: จากรากท้องถิ่น สู่แรงบันดาลใจระดับโลก

The Next Chapter นี้เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่จะกลับมาทำให้ทุกย่านในเมืองเชียงใหม่กลายเป็นโอกาสครั้งสำคัญของสังคมและเมือง จาก “รากวัฒนธรรม” สู่ทิศทางใหม่ที่จะสร้าง “แรงบันดาลใจ” ให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้ามาเยือนและลงทุนมากยิ่งขึ้น ด้วยการชูความโดดเด่นของงานคราฟต์ วัตถุดิบท้องถิ่นและ Local Skill ที่จะส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม งานออกแบบ ดนตรี และอาหารเหนือเพื่อมาต่อยอดและปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้สอดรับกับเทรนด์และบริบทของโลกที่แปรเปลี่ยนไปซึ่งหากอ้างอิงจากข้อมูลอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยที่สามารถสร้างรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่หนึ่งได้แก่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในขณะที่ภาพรวมของแรงงานสร้างสรรค์สาขาที่มีจำนวนแรงงานมากที่สุด ได้แก่ การโฆษณา รองลงมา คือ งานหัตถกรรมและทัศนศิลป์ และงานออกแบบตามลำดับ 


นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง ได้แก่ ดนตรี ซึ่งในปี 2025 มูลค่าของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท จากการเติบโตของสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มและกระแส “Thai Music Wave” ที่ขยายตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตลาดข้างเคียงอย่าง “ตลาดน้ำหอม” ที่สามารถสร้างรายได้สูงถึง 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.6 ล้านบาทและคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15.9 ล้านบาท ภายในปี 2028 ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น เช่น พืชพรรณนานาชนิด รวมถึงผลผลิตจากอุตสาหกรรมการเกษตรที่เหลือใช้มาแปรรูปเป็นขุมทรัพย์การผลิต “น้ำหอม” อย่างยั่งยืน ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จึงตอกย้ำถึงแนวทางของเทศกาลฯ ที่จะเป็นเครื่องมือส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และภูมิภาคให้เป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล


จากงานสร้างสรรรค์ระดับท้องถิ่นสู่การยกระดับสู่สากล

ปีนี้เทศกาลฯ จึงชูโรงด้วยอุตสาหกรรมด้าน Wellness ผ่านประเด็น “กลิ่นจากพืชพื้นถิ่น” ที่จะอบอวลทั่ว TCDC เชียงใหม่ ตั้งแต่นิทรรศการ Make Scents, Make Sense ที่พาไปสำรวจ “กลิ่น” ในฐานะทุนทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจใหม่ของไทย ไปจนถึงประเด็นทางสังคมที่ดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้าน อย่าง The Homecoming Club มาพร้อมกับโปรแกรม Homecoming Speed Meeting ที่ชวนศิลปินและผู้ประกอบการรุ่นใหม่กลับมาสร้างแรงบันดาลใจให้เมือง นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือจากระดับนานาชาติ เป็นการต่อยอดโอกาสใหม่ (New Opportunities) ที่ได้ร่วมมือกับนักออกแบบจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น International Design Showcases แพลตฟอร์มแสดงผลงานออกแบบจากศิลปินนานาชาติ, นิทรรศการ “SEN” จากฝรั่งเศส ชวนผู้ชมสำรวจ “เส้น” ในหลากหลายมิติ ผ่านประสบการณ์ศิลปะ 3 ช่วง ที่เชื่อมโยงศิลปะและร่างกายเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง

เทศกาลดนตรีและศิลปะนานาชาติ LABBfest.2025 และนิทรรศการเซรามิก CRAFTed of Taste: The Art of Eating ที่เชื่อมไทย–ฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็กต์จากเยาวชนไทย–ญี่ปุ่น Yumeie Dream House Project และโปรเจ็กต์ Fixing the Past, Making the Future จาก Studio Bora Hong กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่เปิดบทสนทนาข้ามวัฒนธรรมเกี่ยวกับแนวคิด Cosmetic Surgery Kingdom และการใช้ทรัพยากรอย่างสร้างสรรค์สะท้อนแนวคิดความยั่งยืน (Local Sustainable Living) 


เทศกาลฯ มีการจัดการอีเวนต์อย่างเป็นระบบ โดยการใช้พาวิลเลียน (Pavilion) และโครงสร้างการจัดแสดงเดิมจากปีก่อนนำมาหมุนเวียนใช้ใหม่ การลดใช้วัสดุจากโฟมบอร์ดสำหรับทำป้ายข้อมูล แต่หันมาใช้วัสดุรีไซเคิลจากพลาสติกแทน ด้านการพิมพ์เทศกาลฯ ลดปริมาณการผลิตและจำกัดขนาดของชิ้นงานเพื่อทำให้เกิดส่วนเหลือทิ้งน้อยที่สุด นอกจากนี้ภายใน POP Market ตลาดงานคราฟต์กว่า 140 แบรนด์ ยังมีการจัดการขยะและการลดปริมาณการใช้ภาชนะพลาสติกในพื้นที่อีกด้วย   


ดังที่กล่าวมาข้างต้น ทุกกิจกรรมของเทศกาลฯ ล้วนสะท้อนความเชื่อที่ว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่จำกัดอยู่ในห้องจัดแสดง แต่สามารถปรากฏอยู่ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นตลาด ร้านกาแฟ เสียงบรรเลงดนตรี และโดยเฉพาะในรอยยิ้มของผู้คนที่มาร่วมมือกันสร้างทุกกิจกรรมให้เกิดขึ้น พร้อมเติมพลังใหม่ให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองแห่งแรงบันดาลใจที่เติบโตไปพร้อมทุกคน


ร่วมก้าวสู่ The Next Chapter ของเชียงใหม่ไปด้วยกัน กับ “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568” หรือ “Chiang Mai Design Week 2025” (CMDW2025) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 14 ธันวาคม 2568 ครอบคลุมย่านกลางเวียง, ช้างม่อย-ท่าแพ, สันป่าข่อย และทั่วเมืองเชียงใหม่


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website: www.chiangmaidesignweek.com, Facebook: Chiang Mai Design Week, Instagram: Chiang Mai Design Week และ TikTok: Chiang Mai Design Week



#LocalPlus #ChiangMaiDesignWeek #CMDW2025 #เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 




แชร์